วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2560

REVIEW :: มูสกำจัดขนสูตรเย็น O-Derma Hair Remover Foam ไม่ต้องง้อมีดโกน



สวัสดีค๊าสาวๆ
วันนี้หยกจะมารีวิว "มูสกำจัดขน"
O-Derma Hair Remover Foam

อยากจิบอกว่าอุตส่าห์ไว้ขน
ใช้คำนั้น!!! ไว้ขนรอเลยทีเดียวค่ะ 55555
นางเป็นมูสสูตรเย็นจ้า

ซึ่งวิธีกำจัดขนด้วย O-Derma Hair Remover Foam
ก็ง่ายแสนง่ายเพียงแค่...
ฉีด เช็ด ล้าง
ขนก็หายเกลี้ยงแล้ว
จุดเด่นอยู่ที่เป็นเนื้อมูส ใช้ง่าย
แถมยังเป็นขวดที่พกพาสะดวกอีกด้วยนะคะซิส


ขนาดใหญ่มาก 120 ml. เลยนะคร๊า


คำเคลมจากทางแบรนด์ค่ะ
O-Derma Hair Remover Foam 
: มูสละลายขน สูตรเย็น กลิ่นหอม เทคโนโลยีจากประเทศเกาหลี กำจัดได้ถึงโคน ขนขึ้นใหม่จะไม่แข็ง หรือคันเหมือนการโกน และไม่เป็นขนคุด
เหมือนการถอน

วิธีการใช้ 3 ขั้นตอน
1. ฉีด - ฉีดให้ทั่วและควรทิ้งไว้ 10 นาที ถ้าเช็ดรอบแรกแล้วยังมีบริเวณที่ไม่โดนเนื้อมูส สามารถฉีดซ้ำบางๆได้อีกรอบเลย
2. เช็ด - ก่อนเช็ดควรเอานิ้วหรือมือวนๆดูว่าขนละลายออกมาจริงๆ หลังจากนั้น ให้ใช้กระดาษทิชชูสีขาว หรือผ้าสีขาวเช็ดย้อนรูขุมขน
(จากด้านล่างขึ้นบน)
3. ล้าง - ล้างบริเวณที่ใช้ผลิตภัณฑ์ออกด้วยน้ำสะอาด



ด้านหลังเป็นภาษาเกาหลีนะคร๊า
เพราะว่านาง import มาจากเกาะเกาหลีบ้านเค้าเอง (งานมโนนนนนน) 55555

มาๆ แวะดูรีวิวกันวักนิด
มืดหน่อยน๊า ถ่ายตอนกลางคืนค่า


ขั้นตอนแรก "ฉีด" แล้วใช้มือเกลี่ยให้ทั่วบริเวณที่ต้องการกำจัดขนจ้า
แล้วปล่อยทิ้งไว้ 5-10 นาทีเท่านั้น!



ขั้นตอนที่ 2 ก่อนเช็ดออก
ให้ใช้นิ้วมือถูๆ ดูก่อนสักนิด ว่าขนเริ่มออกรึยัง
ถ้ายังให้ทิ้งไว้อีก 3-5 นาที
แต่ก็ออกแล้วก็ใช้กระดาษทิชชู่หรือผ้าเช็ดย้อนรูขุมขนเลยค่ะ



ขั้นตอนที่ 3 ล้างออกด้วยน้ำสะอาด เป็นอันเสร็จจ๊ะ




ภาพเปรียบเทียบกันสักนิด

ตามมาดู VDO กันต่อเลยค่า



ความรู้สึกหลังได้ใช้สินค้าตัวนี้นะคะ
หยกรู้สึกว่ามันโอเคมากๆๆ
เพราะหลังฉีดนางเย็นตามคำเคลมค่ะ
แถมมีกลิ่นหอม แทบไม่มีกลิ่นฉุนเลย
เนื้อสัมผัส เป็นมูสโฟม เนื้อนุ่มนิ่ม เช็ดออกง่ายมาก
ปาดรอบเดียวขนติดทิชชู่มาทั้งหมดเลยค่ะ
สามารถกำจัดได้ถึงโคน ไม่ต้องง้อมีดโกนกันล่ะงานนี้

นางดีงามตรงเนื้อมูส แค่ ฉีด เช็ด ขนก็หายเกลี้ยง
ต่างจากแต่ก่อนที่นางหยกต้องใช้มีดโกนออก แถมบาดผิวอีกต่างหาก

อยากให้สาวๆ ลองใช้นะคะ
มูสกำจัดขน O-Derma Hair Remover Foam เปลี่ยนชีวิตคิดพูดเลย 555

สามารถอัพเดทข่าวสารและสั่งซื้อได้ที่
นะคร๊าาาา

วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2560

REVIEW เคลียร์ many things ให้สะอาดด้วย น้ำเกลือ Klean&Kare Normal Saline

Hi!!! วันนี้หยกไม่มีเครื่องสำอาง หรือครีมอะไรมารีวิว
จะมีก็แต่
น้ำเกลือ Klean&Kare Normal Saline


สิ่งที่ได้มารีวิวก็มีทั้ง
1. น้ำเหลือ Klean&Kare Normal Saline
2. น้ำยาแช่คอนแทคเลนส์ Klean&Kare Sensiplus Multi-Purpose Contact Lens Solution
3. ชุดอุปกรณ์สวนล้างจมูก Klean&Kare Nasal Kit
4. ตลับใส่คอนแทคเลนส์


ทำไมต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ Klean&Kare
เพราะมี Sodium Chloride 0.9% ซึ่งมีความสมดุลกับน้ำในเซลล์ร่างกาย ไม่แสบแผลไม่ระคายเคือง
สามารถเก็บได้ 30 วันหลังจากเปิดใช้ ใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ปราศจากเชื้อ
แถมราคาถูก !!! มันดีต่อใจตรงนี้
ราคาน้ำเกลือคลีนแอนด์แคร์ในร้านขายยาทั่วไป
• 100 mL ประมาณ 35 บาท (ขวดเล็ก)
• 500 mL ประมาณ 50 บาท (ขวดกลาง)
• 1000 mL ประมาณ 65 บาท (ขวดใหญ่)

ส่วนที่หยกได้มารีวิวเป็นขนาด 500 ml. นะคะ

เหตุผลหลักๆ ที่ต้องมีน้ำเกลือ Klean&Kare ก็เพื่อ
น้ำเกลือ คลีนแอนด์แคร์ เป็นน้ำเกลือใช้ทำความสะอาด ที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองปลอดภัยสำหรับ
1. การเช็ดทำความสะอาดหัวสิวบนผิวหน้า 
2. การล้างโพรงจมูก 
3. การล้างคอนแทคเลนส์ก่อนใส่เข้าดวงตา 
4. การล้างแผล 


น้ำเกลือ Klean&Kare Normal Saline




น้ำยาแช่คอนแทคเลนส์ Klean&Kare Sensiplus Multi-Purpose Contact Lens Solution
พร้อมตลับแช่คอนแทคเลนส์



ชุดอุปกรณ์สวนล้างจมูก Klean&Kare Nasal Kit



ทำไมต้องล้างโพรงจมูก?
เพราะ การสวนล้างโพรงจมูกด้วยน้ำเกลือ เป็นการชะล้างน้ำมูก และสารที่ก่อให้เกิดการแพ้
ทั้งยังช่วยลดอาการน้ำมูกไหลจากการคัดจมูก ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้นอีกได้นะจ๊ะสาวๆ



วันนี้หยกจะเลือกรีวิวแค่การล้างคอนแทคเลนส์ และการล้างโพรงจมูกนะคะ
ไปดู VDO สาธิตการล้างกันเลยคร๊า






หลังจากที่ได้ทดลองแช่คอนแทคเลนส์ด้วย น้ำยาแช่คอนแทคเลนส์
Klean&Kare Sensiplus Multi-Purpose Contact Lens Solution
และล้างคอนแทคเลนส์ด้วย น้ำเกลือ Klean&Kare Normal Saline
รู้สึกได้เลยว่าเลนส์มันนิ่ม ใส่สบายตาขึ้นกว่าปกติ
ใส่เหมือนไม่ใส่เลยแหละยู

ส่วนการสวนล้างโพรงจมูกด้วย น้ำเกลือล้างจมูก นั้น
หยกถือว่ามันโอเคมากนะคะ
เพราะหยกกำลังอยู่ในช่วงเป็นหวัด น้ำมูกเยอะมาก
สวนแล้วโล่งเลยจ้า
ในตอนสวนก็แอบเสียวนิโหน่ย เพราะไม่เคยทำมาก่อน
แต่เป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นดีค่ะ

สำหรับใครที่มองหาผลิตภัณฑ์ดีๆ แบบนี้
หยกก็แนะนำช่องทางการสั่งซื้อได้ที่
นะเจ้าคะ













วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560

REVIEW Stop (ผิว)แก่แดด เพราะใช้ BIORE UV Aqua Rich Watery Essence

เฮลโลสาวๆ
วันนี้หยกจะมาพาปลุกความสตรอง ผิวใสไม่สองรองจากใคร อุ๊ต๊ะ!
ผิวแข็งแรง สู้แดดวนไปทั้งวันกับ

BIORE UV Aqua Rich Watery Essence
SPF50+ PA++++



บิโอเร ยูวี อะควา ริช วอเตอร์รี่ เอสเซ้นส์
นางเป็นครีมกันแดดเนื้อ Essence ที่บางเบามากกก
สำหรับทาผิวหน้าและผิวคอ

แดด เป็นตัวการที่ทำร้ายคอลลาเจนของผิวเรา!
เพราะแดด มีรังสี UVA ที่ทำร้ายลึกถึงชั้นคอลลาเจน ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย
แต่เพียงใช้ Biore UV Essence SPF50+ PA++++ กันแดดสูตรน้ำ บางเบา
แต่ปกป้องขั้นสุดเต็มประสิทธิภาพ ด้วย PA++++
เฮ้! ยูอ่านไม่ผิดค่ะ PA 4 บวกนาจา เพิ่งเคยเห็นอ๊า
สามารถป้องกันรังสี UVA 
จากแสงแดด ไม่ให้ทำร้ายคอลลาเจน ให้ผิวดูไบรท์ ไกลผิวแก่ จบมะ!

คำเคลมของทางแบรนด์
ป้องกันผิวหมองคล้ำและริ้วรอยก่อนวัย
• UV Aqua Jelly Capsule กันแดดอัจฉริยะ เก็บกัก SPF50+/PA++++ ในแคปซูลอนุภาคเล็ก ปกป้องผิวจากรังสี UVB/UVA ที่ระดับการปกป้องสูงสุดอย่างมีประสิทธิภาพและยาวนานยิ่งขึ้น
• SPF50+ ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVB ไม่ให้หมองคล้ำ ป้องกันการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ
• PA++++ ช่วยลดสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัย จากรังสี UVA ที่ทำลายชั้นคอลลาเจน

ไม่มันเหนอะหนะใช้ได้ทุกวัน
• สูตรน้ำ เนื้อเอสเซ้นส์บางเบาพิเศษ ไม่เหนียวเหนอะหนะ เกลี่ยง่าย ซึมซาบเร็ว ใช้ได้ทุกวัน สามารถทาซ้ำระหว่างวันได้
• ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน แต่งหน้าง่ายขึ้น และเมคอัพติดทนนาน
• ผ่านการทดสอบการระคายเคืองผิว (Allergy Tested)

ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน
• ผสาน Hyaluronic acid และ Royal Jelly Extract (สารสกัดน้ำผึ้ง) ช่วยบำรุงให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น พร้อมกลิ่นหอมสดชื่น
• ดูแลผิวด้วย Mixed Citrus Essence จากสารสกัดเกรฟฟรุ๊ต ออเรนจ์ และเลมอน อุดมด้วยความชุ่มชื่นเหมือนเติมน้ำให้ผิวไม่แห้งกร้าน

ขนาด 50 กรัม ราคา 420 บาท


มาดูรีวิวกันดีกว่านะจ๊ะ


ให้ดูเนื้อเอสเซ้นส์กันก่อน
เป็นเนื้อครีมสีขาวข้น บางเบา และไม่เหนียวเหนอะหนะ
แถมยังซึมสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วฝุดๆ






วิธีใช้ก็ง่ายๆ ตามภาพค่ะ
แต้มครีม 5 จุดทั่วใบหน้า และแต้มบริเวณลำคอบับนี้
จากนั้นก็เกลี่ยให้ทั่วใบหน้า แค่นี้ก็เตรียมออกแดดได้สบ๊ายสบาย

อย่าปล่อยให้ แดด ทำร้ายคอลลาเจนของผิวเรา
เพราะรังสี UVA ในแดด ทำร้ายผิวลึกถึงชั้นคอลลาเจน ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย
ปกป้องด้วย PA++++ (PA4+) ใน Biore UV Essence กันแดด ปกป้องคอลลาเจน
ผิวดูไบรท์ ไกลผิวแก่


บอกเลยว่าชอบมากๆ
เพราะไม่เหนียวเหนอะหนะ
โดนแดดแล้วหน้าไม่มันไม่เยิ้ม คือดีต่อใจ ดีต่อผิวอะไรเบอร์นี้!!!

อย่าลืมแวะไปช้อปไปอัพเดทข้อมูลข่าวสารของ Biore Thailand ได้ที่ . . .
www.biorethailand.com
และ
www.facebook.com/Biorethailand/
นะค๊า



วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2560

รีวิว เบลอผิวให้ใส เบลอรูขุมขนให้หายด้วย Eglips Blur Powder Pact

เย้!!! กลับมาพบกันอีกแล้วค่า
วันนี้ไม่ขอชักช้า เข้าเรื่องเลยแล้วกันโน๊ะ
ไม่ว่าจะสาวหน้ามัน สาวหน้าแห้ง รึสาวหน้าไหน
แต่งหน้าทีไร ก็มีดร๊อป มีมันระหว่างวัน
แถมเมคอัพยังปกปิดรูขุมขนไม่มิดอีก

หยก Proud to present
Eglips Blur Powder Pact
อีกลิปส์ เบลอ พาวเดอร์ แพคต์



นางคือแป้งพัฟ ที่ไม่ผสมรองพื้น
ดังนั้นนางจะไม่อุดตันรูขุมขนของเราอย่างแน่นอนค่ะซิส
แถมยังเป็น แป้งเบลอรูขุมขน
ช่วยควบคุมความมัน
พร้อมปรับผิวให้ใสเนียน เปล่งปลั่งตลอดเวค่า



ไม่ว่าจะหน้ามันแค่ไหน
รูขุมขนกว้างเท่าไหร่
นางเอาอยู่!!!
ตามมาดูกันต่อเบย


Eglips Blur Powder Pact
มีด้วยกันทั้งหมด 4 เบอร์นะคะ
- Eglips Blur Powder No.13 เหมาะกับผิวขาวมาก
- Eglips Blur Powder No.21 เหมาะกับผิวขาว
- Eglips Blur Powder No.23 เหมาะกับผิวขาว-ผิวสองสี
- Eglips Blur Powder No.25 เหมาะกับผิวคล้ำ




ส่วนเบอร์ที่หยกได้มารีวิววันนี้เป็นเบอร์ 21 ค่ะ
ตามมาดูรีวิวกันเลย


เนื้อแป้งค่อนข้างละเอียด
คล้ายๆ แป้งฝุ่นอัดแข็งอ่ะค่ะ
เปิดฝาออกมาก็จะมีแผ่นรอง คือถ้าไม่มีเดี๋ยวพัฟมันจะติดกับเนื้อแป้ง
ทำให้เนื้อแป้งมันติดพัฟเยอะเกินนะจ๊ะเลยต้องมีแผ่นรองไว้

ส่วนตัวพัฟนิ่มมาก ใช่คู่กับแป้งโอเคเลย
หรือใครถนัดใช้แปรงก็ใช้ได้ไม่เสียหายค่า



เนื้อแป้งละเอียดมากกกกกก
โอ้ยคือดีค่ะ
เพราะละเอียดขนาดนี้ไงค่ะ เลยสามารถปกปิดรูขุมขนได้ดี




ทดสอบการปกปิดด้วย
*อายไลเนอร์เจล ครีมบรัชออน และน้ำมันสำหรับทาผิวค่ะ*
สังเกตที่น้ำมันนะคะ หยกทาปิดไปครึ่งหนึ่ง
ปกปิดความมันไปเลย ดูเนียนกริบสมชื่อ อีกลิปส์ ป๊ะล๊ะ




Before and After ค่ะยู
เริดมะพูด!!!
เนียนกริบเลยจ้า ความมันบนผิวหน้าก็หายไป
แถมหน้ายังผ่องขึ้นอีกด้วย



ควบคุมความมันดีนักใช่มะ
เอามาตบผมหน้าม้าสักหน่อย
จากมันๆ ความมันหายไปเบย



อ๊ะๆ Finish look จิกวนไป อิอิ
แน่นอนว่าช่วยควบคุมมันได้เริด 4-6 ชั่วโมงเลยจ้า
ตบทีเดียวก็เอาอยู่ทั้งวันอ่ะเนอะ แถมผิวผ่องผิวใสไม่หมองด้วยคร๊า
แต่ถ้าสาวๆ คนไหนผิวมันมาก หยกแนะนำพกไปตบระหว่างวันด้วยค่ะ

สำหรับใครที่สนใจสั่งซื้อ
อยากจิบอกว่าถูกมากกกกกก ถ้าเทียบกับคุณภาพ
ราคาเพียงตลับละ 259 บาทเท่าน้านค่า

เขาจัดจำหน่ายทางช่องทางออนไลน์เท่านั้นค่ะยู
เพราะเป็นแป้งอิมพอร์ทจาก Korea
สามารถสั่งซื้อได้ที่
.
.
.
Website : www.sky007thailand.com
FB : www.facebook.com/sky007thailand
Line@ : @sky007_Thailand
IG : sky007_thailand

แล้วมาหน้าเนียนกริบทั้งวันแบบหยกนะคร๊า

วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2560

รีวิว โบกผิวออร่า ด้วยคุณค่าวิตซีจาก Nami I’m Fresh Jeju Vitamin C Brightening Gel

รีวิว โบกผิวออร่า ด้วยคุณค่าวิตซีจาก Nami I’m Fresh Jeju Vitamin C Brightening Gel



ไฮสาวๆ หลังจากที่ประเทศไทยเข้าสู่อากาศหนาวๆ ได้สักพัก
ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ
ที่ทั้งสูงขึ้น และลดลงเป็นประจำทุกวัน

ทำให้สาวๆ หลายคนป่วย ทั้งกาย ทั้งใจ
อ่อนเปรี้ย เพลียแรงกันวนไป ใช่มั้ยคะ
แต่!!! ถึงแม้จะป่วยเบอร์ไหน
ก็ห้ามมมมม... ปล่อยให้ผิวหน้าพังเด็ดขาด

วันนี้หยกเลยมีตัวช่วยดีๆ มาแนะนำ นั่นก็คือ...
Nami I’m Fresh Jeju Vitamin C Brightening Gel





คุ้นหน้าคุ้นตากันบ้างมั้ยเอ่ย
บางคนอาจเคยเห็นผ่านตากันมาบ้างแล้ว
เพราะเป็นครีมในเซเว่น ชิมิ
ใครยังไม่เคยซื้อมาทดลองใข้
วันนี้หยกเลยจัดมาทั้งกล่อง ใช้วนไปจนผิวดี๊ดีค๊า



ใน 1 กล่อง บรรจุครีมไว้ 6 ซองนะคะ
แต่ละซองมีปริมาณ 30 กรัมจ้า





1 ซองใช้ได้ประมาณ 5-10 ครั้งเลยนะ
ขึ้นอยู่กับว่าใช้ทาส่วนไหน


เมื่อพูดถึงทาส่วนไหน?
มาดูกันค่ะว่าทาส่วนไหนในร่างกายได้บ้าง

- 9 in 1 เคล็ดลับ เพื่อผิวใส -


วิธีใช้ : ทาทั่วใบหน้าเป็นประจำทุกเช้า-เย็น

1. ทาเช้า-เย็น ผิวกระจ่างใส เย็นสดชื่น
2. พอกรอบดวงตา ดูแลปัญหารอยคล้ำ
3. แช่เย็นก่อนพอกหน้า ช่วยฟื้นบำรุงผิว
4. แต้มรอยสิว ผิวกระจ่างใส
5. ทาผิวกาย กระจ่างใส ฉ่ำน้ำ
6. นวด – พอก บริเวณมือที่เหี่ยวย่น
7. ทาข้อศอก ข้อพับหรือจุดดำคล้ำ
8. ทารักแร้ให้กระจ่างใส
9. ทาขาหนีบให้กระจ่างใส

เลิศเลอค่ะซิส แค่ซองเดียวทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ
สรรภคุณนางก็ไม่เบานะจ๊ะ


เป็นเจลวิตามินซีเข้มข้น ผสานสารสกัดส้มจากเกาะเชจู ประเทศเกาหลี
เกาะที่เต็มไปด้วยดินภูเขาไฟ (เกาะนี้เขามีครบทุกสิ่งอย่างจิมๆ)
ทำให้ส้มอุดมไปด้วยวิตามินซี และแร่ธาตุต่างๆที่มีประโยชน์ต่อผิว
ช่วยฟื้นบำรุงผิวอย่างเร่งด่วน ให้จุดด่างดำ และรอยสิวดูจางลง
ผิวดูสว่าง กระจ่างใสขึ้น รอยหมองคล้ำใต้ตา และริ้วรอยดูจางลง
ผิวนุ่ม ฉ่ำน้ำ พร้อมผสานกลูต้า-ไธโอนและวิตามินบี 3 เข้มข้น
เสริมประสิทธิภาพให้ผิวเปล่งประกาย เนียน เรียบขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ครบทั้ง...
- รอยดำดูลดเลือนลง ผิวดูกระจ่างใส
- ผิวเด้งดึ๋ง ฉ่ำน้ำ
- ผิวกระชับ ริ้วรอยดูลดเลือนลง



มาดูเนื้อครีมกันค่า
เป็นเจลสีส้มใส แถมมีเม็ดบีดสีส้มอยู่จ๊ะ


พอเกลี่ยเม็ดบีดก็จะแตกตัวผสมเข้ากับเนื้อเจล
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของส้ม

เนื้อเจล นามิ แอม เฟรช เชจู วิตามิน ซี ไบรท์เทนนิ่ง เจล
จะมีความหนึบเล็กน้อย
ตอนแรกก็คิดว่าคนหน้ามันใช้ไม่ได้แหง
เพราะเนื้อเจลค่อนข้างเหนียว

แต่พอทาทิ้งไว้ให้นางเซตตัว
ก็กลืนลงสู่ผิวเลยจ้า



กลืนเข้าสู่ผิวบับนี้เลยนร๊าาาาา


มาๆ ตามมาดูรีวิวกันนะคะ
วันนี้หยกเลือกรีวิวแค่ 3 แบบคือ
พอกรอบดวงตา แช่เย็นก่อนพอกหน้า
และทารักแร้ (งานนี้พลีชีพมากกกก)


เนื้อเจลไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองนะคะ
หลังพอกก็ไม่รู้สึกแสบหรือคันจ้า
แต่ถ้าสาวๆ คนไหนยังหวั่นๆ
หยกแนะนำให้พอกที่ท้องแขนหรือคอดูก่อน
ค่อยพอกที่ตาทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วเช็ดออก
(ถ้าแช่เย็นก่อนพอกจะฟินมาก)




งื้อออ งานพลีชีพ อยากอายเด้ 55555
อันนี้ลองทาที่น้องรักแร้ เช้า-เย็น ติดต่อกันเป็นเวลา 7 วัน
น้องรักแร้ดูเนียนขึ้น ส่วนความขาวนั้นสว่างขึ้นเล็กน้อยค่ะ
Before ถ่ายตอนกลางคืน น้องขนกำลังขึ้น
After ถ่ายตอนเช้า ถอนน้องขนออกไปบ้างแล้ว เลยอาจจะดูแตกต่างกันมาก
โดยรวมถือว่าโอเคเลย ส่วนตัวหยกคิดว่าตัวครีมช่วยลดกลิ่นใต้วงแขนด้วยนะ





ก่อนเอา นามิ แอม เฟรช เชจู วิตามิน ซี ไบรท์เทนนิ่ง เจล
มาพอกหน้า เขาบอกให้แช่เย็น หยกก็จัดจ๊ะ ตามน้าน



บีบเจลออกมาแล้วพอกหนาๆ ทิ้งไว้ทั้งคืนค่ะ
ตอนพอกรู้สึกหน้าฉ่ำมากกกกกก
แต่ตื่นมาแล้วฟินส์เฟร่อออออ หน้านุ่ม ชุ่มชื่นขึ้น หลังใช้ไปสักพัก
ผิวดูเนียนและใสขึ้นเล็กน้อยค่ะ

*คำแนะนำ*
*สำหรับสาวผิวมัน แนะนำว่าให้พอกทิ้งไว้เพียง 10-20 นาทีพอค่ะ
**สาวผิวแห้ง จะพอกทิ้งไว้ 30-1 ชั่วโมง หรือใครแห้งหนักแบบหยก พอกทิ้งไว้ทั้งคืนจ้า 555
***ส่วนสาวผิวผสม-ผิวแพ้ง่าย พอกไว้เพียง 20-40 นาทีก็พอนะคะ




สำหรับสาวๆ คนไหนที่สนใจ สามารถสั่งซื้อ หรืออัพเดทข้อมูลข่าวสารของ Nami ได้ที่
- www.namiwink.com
- www.facebook.com/namiwink
และอีกช่องทางการซื้อก็คือ 7-Eleven ทุกสาขานะจ๊า

แล้วกลับมาเจอกับหยกได้ใหม่ในบล็อกหน้า บุยๆๆๆ


วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2560

รีวิว Mistine 3D Satin Beam Blusher ปัดความวิ้งค์ จนใครๆ ก็ติดว้าว

รีวิว Mistine 3D Satin Beam Blusher ตบความวิ้งค์ จนใครๆ ก็ติดว้าว


สวัสดี สวีดีส วันปีใหม่
ปีไก่ ปี 2560 นี้นะคร๊าาาาา
1 ปี ผ่านไปไวยิ่งกว่าติดไอพ่นว่ามั้ยเอ่ย

งั้นหยกขอเปิดศักราชใหม่ด้วย

"มิสทิน มาแล้วค่ะ"

รีวิว
  Mistine 3D Satin Beam Blusher No.03  
เป็นครีมบรัช เนื้อซาตินสีทอง แพรวพราว เลิศสุดๆ จ้า




อันที่จริง มิสทิน ทรีดี ซาติน บีม บลัชเชอร์ เป็นบลัชออนผสมชิมเมอร์
ที่มีด้วยกันทั้งหมด 3 สีนะคะ
01 สีชมพู
02 สีพีช
03 สีทอง
ตามนี้เลยค่ะ


มาดูรีวิวกันเลยดีกว่าค่ะสาวๆ



ตลับของ มิสทิน ทรีดี ซาติน บีม บลัชเชอร์ ก็กระทัดรัด
สามารถพกพาใส่กระเป๋า ไปไหนมาไหนได้สะดวก


ดูพิกเม้นต์กันชัดๆ เลยค่า
ที่เห็นเป็นรอยๆ น้านนนนน
เกิดจากการเปิดตลับที่รุนแรงเกินเหตุ
จนเล็บไปขูดเอาเนื้อบรัช T_T

เนื้อบรัชเป็นเนือฝุ่นที่นุ่มราวกับผ้าซาติน
นุ่มจริงๆ ชอบ ปาดทีนี่ฟินมากเลอ
แถมเกลี่ยง่ายด้วยนะคะ


สวอชสีให้ดูสักนิดค่ะ
สีตอนสวอชคือเป็นสีส้มประกายทอง

แต่พอเกลี่ย สีจะออกทองๆ และมีชิมเมอร์เม็ดเล็กๆ สีทองชัดเจนมาก
ยิ่งตอนที่ต้องกับแสงแดดและแสงไฟ
ยิ่งเปล่งประกายมากกว่าเดิมค่ะซิส


พอลงกับแก้ม สีเหมือนที่ลงที่ท้องแขนเลยจ้า
สีทอง ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นครีโอพัตรา 5555555

จะใช้มือปาด หรือใช้แปรงก็ได้นะคะ
แล้วแต่ชอบ แล้วแต่ถนัดเลยจ้า






ก่อนลงบรัชค่ะ



หลังทาก็จะให้ลุควาวๆ แพรวพราว
ไม่อ่อนไป ไม่เข้มไป สีทองวิบวับกำลังพอดีค่ะ
แต่พอเจอแสงตอนกลางคืน คือเจิดจรัสมากกกกกก
ทาไป Hangout คือใช่เลยจ้า แถมติดทนยาวนาน 5-8 ชั่วโมงเลย
พกไปแทบไม่ต้องเติม
ก็เลยแอบให้คะแนนไป ★★★★
หักไป 1 ★ เพราะสีนี้หาโอกาสทาได้น้อยครั้ง
คือต้องแต่งออกงานกลางคืน หรือปาร์ตี้เก๋ๆ

แต่ว่าองค์รวม ทั้งเกลี่ยง่าย ติดทน สีสวย คือดีนาจาซิสๆ ทั้งหลาย
หากสาวๆ คนไหนสนใจบรัชตัวนี้
สามารถอัพเดทข่าวสารและสั่งซื้อได้ที่...

https://www.facebook.com/MistineNo1CosmeticInThailand/?fref=ts

ไว้บล็อกหน้าจะมีอะไรดีๆ มาแนะนำ
รอดูกันได้เลยคร๊า >____<